ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ SmartMathPro เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นและดำเนินการโดย บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด นิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จดทะเบียนตามกฎหมายไทย สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 926 อาคารโครงการ Block28 ห้องเลขที่ C305-C312, C311/1 ซอย จุฬา 7 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

เพื่อให้การใช้บริการเว็บไซต์นี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้อง บริษัทฯ ได้จัดทำข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งประกอบด้วยการใช้บริการในเว็บไซต์ ดังนี้ 

  1. smartmathpro.com 
  2. online.smartmathpro.com
  3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต

ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ทุกท่านจะต้องรับทราบและยินยอมข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัว ที่บริษัทฯ ได้จัดทำ ดังนั้น กรุณาอ่านและใช้วิจารณญาณอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนการยินยอมข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัว ที่ทางบริษัทกล่าวถึงทั้งหมดในเนื้อความด้านล่างนี้ทั้งหมด

นโยบายการคืนเงิน

ผู้ใช้บริการที่มีความประสงค์จะทำการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคอร์สเรียน ผู้ใช้บริการจะต้องยังไม่ได้เข้าเรียน หรือทำการเรียนแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมง และจะต้องแจ้งความประสงค์ในการยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติให้เข้าเรียนจากทางบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีดุลพินิจเด็ดขาดในการพิจารณาการคืนเงิน หรือเปลี่ยนแปลงคอร์สเรียน

หากทางบริษัทฯ ตรวจสอบพบว่า การยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงคอร์สเรียน เป็นความผิดอันมาจากผู้ใช้บริการด้วยความเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินให้ผู้ใช้บริการทุกกรณี ทั้งนี้ หากบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติให้มีการคืนเงินตามเงื่อนไขทุกประการ บริษัทฯ จะดำเนินการคืนเงินภายใน 7 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่พิจารณาและแจ้งผลให้ผู้ใช้บริการทราบแล้วเสร็จ

การซื้อ ขาย หรือการใช้งานร่วมกันของคอร์สเรียน

ข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ เนื้อหาในคอร์สเรียนทั้งหมดในเว็บไซต์ ถือเป็นผลงานอันมีลิขสิทธิ์ และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ โดยต้องไม่กระทำการดังต่อไปนี้ เช่น ลอกเลียน ทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข เรียบเรียง รับซื้อ ขาย มีไว้เพื่อขาย เช่า มีไว้เพื่อเช่า เสนอขาย เสนอเช่า จัดพิมพ์เนื้อหา reverse engineer เผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงห้ามกระทำการอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ ในลักษณะที่เป็นการแสวงหาประโยชน์ทางการค้า หรือประโยชน์โดยมิชอบ ไม่ว่าโดยประการใด ๆ ก็ตาม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทฯ หากมีการตรวจสอบพบว่าผู้ใช้บริการ ได้กระทำการดังกล่าว บริษัทฯ ขอระงับสิทธิ์ในการเข้าเรียนของผู้ใช้บริการโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และบริษัทฯ จะไม่คืนเงินค่าคอร์สเรียนหรือชดเชยเป็นจำนวนเงินใด ๆ คืนแก่ผู้ใช้บริการทั้งสิ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด

การใช้งานเว็บไซต์

เว็บไซต์นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการเหล่านี้เป็นครั้งคราว ดังนั้น ผู้ใช้บริการควรเข้ามาอ่านรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ และนอกเหนือจากนี้ เว็บไซต์นี้ประกอบไปด้วยข้อความ เนื้อหา โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ รูปภาพ วิดีโอ เสียง ภาพกราฟิกทั้งหลาย หรือเครื่องหมายทางการค้า ซึ่งได้รับความคุ้มครองในด้านลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ เป็นของบริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด โดยห้ามผู้อื่นทำซ้ำ แก้ไข หรือนำข้อมูล เนื้อหา โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ รูปภาพ วิดีโอ เสียง ภาพกราฟิกทั้งหลาย หรือเครื่องหมายทางการค้าไปเผยแพร่ โดยยังไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด

ผู้ใช้บริการยินยอมจะไม่ใช้เว็บไซต์หรือบริการของเว็บไซต์นี้ ดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลของลูกค้า หรือผู้ลงโฆษณา และยินยอมที่จะไม่กระทำการใช้ซอฟต์แวร์อัตโนมัติ (bots) เจาะระบบฐานข้อมูล แก้ไข ดัดแปลง หรือ ปรับเปลี่ยนการเข้าถึงข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์อื่น ๆ อันได้มาซึ่งข้อมูลจากบริการของบริษัทฯ และผู้ใช้บริการยินยอมที่จะไม่กระทำการใช้ซอฟต์แวร์ใด ๆ ในการนำข้อมูลและบริการส่วนหนึ่งส่วนใดของบริษัทฯ ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด

การยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนตัวทุกรูปแบบที่ผู้ใช้บริการให้กับทางบริษัทฯ จะถือว่าเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความลับ และไม่เป็นกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด ทุกสิ่งที่ผู้ใช้บริการได้ให้เผยแพร่หรือแสดงความเห็น บริษัทฯ สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น และผู้ใช้บริการต้องยอมรับว่าข้อมูลที่ผู้ใช้บริการดำเนินการใด ๆ บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ์จากบุคคลที่สาม ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องยินยอมให้บริษัทฯ รวบรวมข้อมูลและการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ และบริษัทฯ มีสิทธิ์ในการใช้ข้อมูลดังกล่าวตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

การเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น ๆ

เว็บไซต์นี้อาจมีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่น ๆ การเชื่อมต่อนี้เพื่อช่วยให้ท่านค้นหาเว็บไซต์ บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย บริษัทฯ ไม่มีอำนาจที่จะควบคุม รับรองยืนยันความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือหรือรับผิดชอบในเนื้อหาของเว็บไซต์ของบุคคล ภายนอก หรือการเชื่อมต่อใด ๆ ที่บรรจุอยู่ในเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

การตัดสินใจว่าบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์เหล่านี้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของท่านหรือไม่นั้น เป็นความรับผิดชอบของท่านเอง บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด จำกัด ไม่สามารถควบคุมและจะไม่รับผิดชอบเนื้อหาของเว็บไซต์เหล่านั้นใด ๆ ทั้งสิ้น และบริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดถึงการรับประกันใด ๆ หรือต้องรับภาระค่าเสียหายที่เกี่ยวพันกับเจ้าของ หรือผู้ดำเนินงานของเว็บไซต์ใด ๆ รวมทั้งความเสียหายที่เกิดจากข้ออ้างใด ๆ ก็ตามที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่นของเว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น

บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้ใส่ลิงก์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในเว็บไซต์นี้

ข้อจำกัดและการปฏิเสธความรับผิด

ผู้ใช้บริการจะต้องยอมรับว่า เมื่อเข้าใช้บริการเว็บไซต์นี้แล้ว ผู้ใช้บริการยอมรับความเสี่ยง และต้องรับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าใช้งานของผู้ใช้บริการ (ุถ้ามี) บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย ความสูญเสีย ค่าใช้จ่าย การเรียกร้อง หรือความต้องการใด ๆ ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้ การชดเชย หรือผลเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เกี่ยวข้องกับการใช้งานเว็บไซต์นี้ของผู้ใช้บริการ และข้อมูล เนื้อหา ส่วนประกอบ หรือผลิตภัณฑ์ที่รวมอยู่ในหลักเกณฑ์บนเว็บไซต์นี้ อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย หากเกิดข้อพิพาทใด ๆ จะได้รับการแก้ไขโดยศาลยุติธรรมในการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและเงื่อนไขต่อไป

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้าทางธุรกิจ

บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด (“บริษัท”)  ให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวของคู่ค้าทางธุรกิจทุกท่าน (“ท่าน”) จึงจัดให้มีประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อ “ท่าน” จะได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ “ท่าน” ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

คู่ค้าทางธุรกิจ หมายถึง บุคคล/นิติบุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือให้บริการ หรือรับจ้างทำของให้แก่ บริษัท เช่น ผู้ขาย ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น

  1. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายให้อำนาจไว้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ได้แก่ เพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ดังต่อไปนี้

    1. ฐานภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท ได้แก่
      1. เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบสำคัญรับเงิน ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
      2. เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ เป็นต้น )
    2. ฐานการปฏิบัติตามสัญญา ได้แก่
      1. เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่าน ทั้งก่อนและขณะทำสัญญา และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการในขั้นตอนการเข้าทำสัญญา การเสนอขายและการเจรจาต่อรอง
      2. เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน และเพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร
      3. เพื่อตรวจสอบการมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
      4. เพื่อพิจารณาลงนามในสัญญา และเพื่อปฏิบัติตามสัญญา
      5. เพื่อการจัดซื้อ จัดจ้าง ตรวจรับ ชำระค่าสินค้าและบริการ ตรวจสอบและประเมินการทำงานตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ในใบสั่งซื้อหรือสัญญาหรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
    3. ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ได้แก่
      1. รักษาความปลอดภัย ( เช่น บันทึกภาพ CCTV และ/หรือบันทึกภาพผู้ติดต่อก่อนเข้าบริเวณสถานที่ของบริษัท เช่น คลังสินค้า )
      2. เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท
  2. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะถูกประมวลผล

    บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรงซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทจัดเตรียมไว้หรือกรอกข้อมูลลง ในแพลตฟอร์ม ออนไลน์ที่ทางบริษัทได้กำหนด และ/หรือวิธีอื่นใด อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะของกิจกรรมบริษัทจำเป็นต้อง ประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัด เก็บจากท่านอาจแตกต่างกันแล้วแต่กรณี และลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้อง ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    1. ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ, ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, เลขบัตรประชาชน, อีเมล ,เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่, ลายมือชื่อ, Line ID
    2. ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
    3. ข้อมูลการโต้ตอบ และการสื่อสารในกรณีที่ท่านติดต่อบริษัท รวมถึงข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม และบริการต่าง ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบ หรือวิธีใด ๆ ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นภาพ หรือเสียงโดยไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
    4. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญจ่าย รวมถึง เอกสารอื่นใดที่ใช้ในการระบุตัวตน และการยืนยันตัวตน
    5. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งท่านรับรองต่อบริษัทว่า ท่านได้รับความยินยอมจากผู้เกี่ยวข้องให้เปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท รวมถึงยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้
  3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

    บริษัทไม่มีความประสงค์ให้บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน แต่หากข้อมูลดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัท เช่น เชื้อชาติ หรือข้อมูลศาสนา และท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด บริษัทแนะนำให้ท่านเป็นผู้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัททำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ ซึ่งบริษัทได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้บริษัทสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

  4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการเก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนของการเข้าทำสัญญาการกรอกข้อมูลผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ การให้ข้อมูล ความคิดเห็น ไม่ว่าจะผ่านการพูดคุยกันโดยตรง หรือช่องทางออนไลน์ และไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบวาจาหรือลายลักษณ์อักษรก็ตาม
    2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจากบุคคลที่สาม เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
    3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies)
  5. วัตถุประสงค์และฐานการประมวลผลข้อมูล
    1. บริษัทประมวลผลข้อมูลของท่าน ในกรณีท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา และ/หรือการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัท ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือการให้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
  6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ในการให้บริการต่าง ๆ รวมถึง ผู้ที่ทำหน้าที่ในนามบริษัท หรือร่วมกับบริษัท เพื่อดำเนินวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ และมีความจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน การตรวจสอบทางบัญชี หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของบริษัท
    2. ที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัท เป็นต้น
    3. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
    4. บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ รวมถึงจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น โดยในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน
  7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
    1. บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่น ในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบ ของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้อง มีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
    2. ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ส่งไปยัง ประเทศปลายทาง ต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพียงพอ ในกรณีที่จำเป็นต้องส่งให้ประเทศปลายทางที่ไม่มีมาตรการเพียงพอ บริษัทจะต้องขอความยินยอมของท่านก่อนการส่งหรือโอนข้อมูลส่วน บุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
  8. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ตามที่ระบุใน ประกาศฉบับนี้ ดังนี้

    1. กรณีที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทในฐานะที่ท่านเป็นคู่สัญญา คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ผู้เกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านั้น โดยบริษัทจะเก็บข้อมูลท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการแก่ท่านตามระยะเวลาในสัญญา และจะเก็บต่อไปอีก 2 (สอง) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสัญญาหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์กับท่าน
    2. ในกรณีมีการขอใช้สิทธิตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ บริษัทจะเก็บหลักฐานประวัติการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ 1 (หนึ่ง) เดือน นับถัดจากเดือนที่บริษัทพิจารณาคำขอของท่านแล้วเสร็จ
    3. กรณีอื่น ๆ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัท และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ กรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของท่านจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
    4. เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตาม กฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย
    5. กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และเราดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี เราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
  9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    1. สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
    2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
    3. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
    4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    5. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท)
    6. สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
    7. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
    8. สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  10. ช่องทางติดต่อบริษัท

    หากท่านต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัท โปรดติดต่อบริษัทตามช่องทางดังต่อไปนี้

    บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด
    ที่อยู่ : 926 อาคารโครงการ Block28
    ห้องเลขที่ C305-C312, C311/1 ซอยจุฬาฯ 7
    แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 103
    อีเมล : [email protected]
    หมายเลขโทรศัพท์ : 089-201-6368
  11. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

    บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามสมควร กรณีที่มี การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะเผยแพร่ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทาง เว็บไซต์ของบริษัท (https://smartmathpro.com) โดยประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีใน วันที่ประกาศ

    ปัจจุบัน ประกาศความเป็นส่วนตัวถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับพนักงาน

บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด (“บริษัท”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน และผู้ฝึกงาน (“ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพนักงานและผู้ฝึกงาน ได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (“การประมวลผล”) ตลอดถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้

คำนิยาม
พนักงานผู้สมัครงานที่เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทเพื่อทำงานให้แก่บริษัทในฐานะพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานชั่วคราว พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้บริการจัดหางาน (Outsource) และพนักงาน (Part-Time) ที่เข้ามาทำงานให้บริษัทนี้ แล้วแต่กรณี
ผู้ฝึกงานผู้สมัครเข้าฝึกงานและนักศึกษาฝึกงานที่ได้รับคัดเลือกและประสงค์เข้าฝึกงานกับบริษัทในระหว่างกำลังศึกษา
ข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  1. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายให้อำนาจไว้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ได้แก่ เพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ดังต่อไปนี้

    1. ฐานภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท ได้แก่
      1. เพื่อรายงานข้อมูลต่อกรมสรรพากร หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานกำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นต้น
      2. เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ เป็นต้น) หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัด จากหน่วยงานราชการหรือศาล
      3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น กฎหมายว่าด้วยเรื่องคุ้มครองแรงงาน แรงงานสัมพันธ์ ประกันสังคม ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน การประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม การควบคุมโรคติดต่อ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
      4. เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550
    2. ฐานการปฏิบัติตามสัญญา ได้แก่
      1. เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร
      2. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอในการสมัครงาน และพิจารณาคุณสมบัติเพื่อการจ้างงานตามระเบียบบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัท
      3. เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของพนักงาน เช่น การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ การสร้างอีเมล
      4. เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการเรื่อง ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าเดินทาง รวมถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับพนักงาน
    3. ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ได้แก่
      1. เพื่อรักษาความปลอดภัย เช่น บันทึกภาพ CCTV ในบริเวณสถานที่ของบริษัท
      2. เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยสถิติสำรวจความคิดเห็นการจัดกิจกรรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง ภายในองค์กรและภายนอกองค์กร เพื่อประโยชน์และการพัฒนาองค์กรหรือพัฒนางานด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท
      3. เพื่อส่งข้อมูลพนักงานให้ผู้ให้บริการภายนอก เพื่อจัดทำเงินเดือน
      4. เพื่อประกาศพนักงานใหม่ ประกาศรายชื่อพนักงานและข้อมูลการติดต่อ
    4. ฐานความยินยอม ได้แก่
      1. เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เฉพาะบางตำแหน่งที่บริษัทกำหนด)
      2. เพื่อประโยชน์ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เช่น การถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว งานเลี้ยงปีใหม่ งานสังสรรค์ การจัดงานท่องเที่ยวประจำปี กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น
      3. เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวของพนักงาน เช่น ภาพจำลองใบหน้า เพื่อบันทึกการเข้า-ออกสถานที่ทำงาน
  2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทจัดเตรียมไว้ หรือกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทางบริษัทได้กำหนด และ/หรือวิธีอื่นใด อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะของกิจกรรม บริษัทจำเป็นต้อง ประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บจากท่านอาจแตกต่างกันแล้วแต่กรณี และลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้อง ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    1. ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล ชื่อเล่น เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง รูปถ่าย ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา เลขบัตรประชาชน สัญชาติ สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร ผลตรวจสุขภาพ ผลตรวจ Covid-19 ข้อมูลการแพ้อาหารและยา Biometric
    2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) ข้อมูลในเฟซบุ๊กที่ตั้งค่าเป็นสาธารณะ อินสตราแกรม และข้อมูลอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน
    3. ข้อมูลเกี่ยวกับศึกษา การฝึกอบรม เช่น ประวัติการศึกษา ชื่อสถาบัน คณะ สาขาวิชา และปีที่จบ ผลการศึกษา ผลการทดสอบ ประวัติการฝึกอบรม หรือฝึกงาน ใบรับรองคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ ระบุในใบสมัครงาน ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่าน คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่น ๆ
    4. ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานก่อนหน้า เช่น ประวัติการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน ซึ่งรวมถึงตำแหน่ง เงินเดือน ผลการประเมินการทำงาน
    5. ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน จดหมายสมัครงาน ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท เช่น ข้อมูลที่ปรากฏใน Resume Curriculum Vitae (CV) เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน วิดีโอการแนะนำตัว ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทในระหว่างการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ และข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือก เช่น ผลการประเมิน ความรู้และประสบการณ์ คุณลักษณะส่วนบุคคล การทำงานกับผู้อื่น และเอกสารใบรับรองที่ประกอบการพิจารณา เป็นต้น
    6. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการสมัครงานหรือทำนิติกรรม เช่น สำเนาบัตร ประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ ทหาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่ สมุดทะเบียนรถยนต์ และสิ่งที่สามารถระบุตัวตนอื่น เช่น ใบอนุญาตผู้สอบบัญชี และใบอนุญาตทนายความ ใบอนุญาตอื่นใดที่เกี่ยวกับ ตำแหน่งงานของท่าน แบบระบุนามผู้รับผลประโยชน์ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล หนังสือค้ำประกันการ ทำงานและ เอกสารที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงาน
    7. ข้อมูลในระหว่างปฏิบัติงาน เช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่ง แผนก สังกัด การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและ/หรือรางวัลที่ได้รับ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติ ตามสัญญา การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากร สัญญายืมตัวบุคลากร ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท เป้าหมายการทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับความประพฤติหรือวินัยการทำงาน ใบลาออกและเหตุผลที่ลาออก สาเหตุการพ้นสภาพการเป็นพนักงาน
    8. ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย เช่น การบันทึกการใช้ระบบต่าง ๆ ของบริษัท ข้อมูล เกี่ยวกับการเข้าออกสถานที่ทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งอุบัติเหตุ และความปลอดภัยในที่ทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อการปฏิบัติงาน หรือที่เกี่ยวเนื่องกับหน้าที่การงาน
    9. ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ สวัสดิการ เลขบัญชีธนาคาร หนังสือยินยอมให้หักเงินเดือน ข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร และการหักลดหย่อนภาษี ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ และ/หรือ ผลประโยชน์อื่น ๆ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ รายงานสุขภาพประจำปี แบบแจ้งการลาคลอด แบบการ เรียกค่าสินไหมทดแทน (สำหรับการประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิต)
    10. ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้า ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลา แบบ แจ้งการลา รายละเอียดการลา รวมถึงสาเหตุการลา
    11. ข้อมูลที่ได้จากแบบทดสอบต่าง ๆ เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนะคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือ ลักษณะอื่น ๆ ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกต และวิเคราะห์ของบริษัทในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท
    12. ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่อง คอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัท ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลการสื่อสาร และการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และอีเมล อุปกรณ์ สื่อสาร ของบริษัทในระหว่างปฏิบัติงาน
    13. ข้อมูลอื่นๆ เช่น เสียง ภาพนิ่ง และ/หรือภาพเคลื่อนไหว ที่ได้จากกล้องวงจรปิด รวมถึง ข้อมูลอื่น ใดที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมหรือแคมเปญต่าง ๆ ที่บริษัทหรือบริษัทในเครือจัดขึ้น
    14. ข้อมูลบุคคลภายนอกที่ท่านให้ไว้ หรือข้อมูลที่บริษัทได้จากบุคคลภายนอก เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล อื่นซึ่งท่านรับรองต่อบริษัทว่า ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้เปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท รวมถึงยินยอมให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ ระบุใน ประกาศฉบับนี้ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล อาชีพ สถานที่ทำงาน และหมายเลขโทรศัพท์ของคู่สมรส บุตร บิดา มารดา หรือบุคคลในครอบครัวที่บริษัทสามารถติดต่อในกรณีฉุกเฉิน หรือบุคคลที่ท่านอ้างอิง เพื่อการตรวจสอบและรับรองการทำงาน และ/หรือผู้ค้ำประกันการทำงาน รวมถึงข้อมูลที่ บุคคลภายนอกให้ไว้ เกี่ยวกับ รายละเอียดพฤติกรรม เกี่ยวกับพนักงานหรือผู้ฝึกงาน
    15. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ได้รับความยินยอมในระหว่างปฏิบัติงาน เช่น ข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัทในระหว่างการปฏิบัติงาน หรือระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท
  3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

    บริษัทไม่มีความประสงค์ให้บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน แต่หากข้อมูลดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัท เช่น เชื้อชาติ หรือข้อมูลศาสนา และท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด บริษัทแนะนำให้ท่านเป็นผู้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัททำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ ซึ่งบริษัทได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้บริษัทสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัท ไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

  4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

    1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยตรง

      บริษัทเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้รับจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทจัดเตรียมไว้ หรือกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทางบริษัทได้กำหนด หรือการ walk-in สมัครงาน หรือสมัครฝึกงาน หรือการสมัครที่บูธสมัครงาน Job Fair Roadshow หรือการสมัครงานผ่านเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึง กรณีที่ท่านเข้าสัมภาษณ์งาน เข้าทำสัญญากับบริษัท และส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัท

    2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอก

      บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม และ/หรือบุคคลอื่นใดที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูล หรือผู้ประมวลผลข้อมูล โดยบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลเหล่านั้น เป็นผู้มีสิทธิประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล และมีสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทได้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลมาจากช่องทาง ดังนี้

      1. สื่อสังคมออนไลน์ แหล่งข้อมูลโซเชียลมีเดีย หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลที่สาม เว็บไซต์สมัครงาน เช่น Jobs DB, Jobs Thai, LinkedIn ฯลฯ
      2. บริษัทจัดหางาน หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา รวมถึงบุคคลใด ๆ ที่ดำเนินการในนามของหน่วยงานเหล่านั้น
      3. ข้อมูลที่ได้จากการโต้ตอบทางโทรศัพท์ และข้อมูลที่ได้จาก หรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการรับสมัคร
  5. วัตถุประสงค์และฐานการประมวลผลข้อมูล
    1. ในกรณีที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะและ/ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทจะจัดให้มีประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือแจ้งไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
    2. บริษัทประมวลผลข้อมูลโดยอาจอาศัยหรืออ้าง
      1. ฐานความยินยอมเพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน
      2. ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญา หรือการเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน
      3. ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
      4. ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก
      5. ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ
      6. ฐานประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี
  6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามกฎหมายให้แก่บุคคลและ หน่วยงาน ดังต่อไปนี้

    1. ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายใน ของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    2. บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของเรา (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการ เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ ประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ ระบบสารสนเทศ สถาบันการเงิน คู่ธุรกิจ ผู้พัฒนา ระบบสารสนเทศ หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถดำเนินธุรกิจและ ให้บริการ แก่พนักงาน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
    3. บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ รวมถึงจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น โดยในกรณีที่ กฎหมายกำหนด ว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน
  7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
    1. บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่น ในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูป และรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
    2. ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ส่งไปยังประเทศปลายทาง ต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพียงพอ ในกรณีที่จำเป็นต้องส่งให้ประเทศปลายทางที่ไม่มีมาตรการเพียงพอ บริษัทจะต้องขอความยินยอมของท่านก่อนการส่งหรือโอนข้อมูลส่วน บุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
  8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ ดังนี้

    1. บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโดยมีกำหนดระยะเวลา 2 (สอง) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสัญญาจ้าง
    2. บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ฝึกงานโดยมีกำหนดระยะเวลา 2 (สอง) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดการฝึกงาน
    3. กรณีอื่น ๆ บริษัทอาจจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัท และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ กรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลา ที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น หอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการ ดำเนินการ ดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของ ท่านจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
    4. เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย
    5. กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้น แล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น สำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
  9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    1. สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
    2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
    3. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
    4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    5. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท)
    6. สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่ สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
    7. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
    8. สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  10. ช่องทางติดต่อบริษัท

    หากท่านต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัท โปรดติดต่อบริษัทตามช่องทางดังต่อไปนี้

    บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด
    ที่อยู่ : 926 อาคารโครงการ Block28
    ห้องเลขที่ C305-C312, C311/1 ซอยจุฬาฯ 7
    แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
    อีเมล : [email protected]
    หมายเลขโทรศัพท์ : 089-201-6368
  11. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

    บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามสมควร กรณีที่มี การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะเผยแพร่ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทาง เว็บไซต์ของบริษัท (https://smartmathpro.com) โดยประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีใน วันที่ประกาศ

    ปัจจุบัน ประกาศความเป็นส่วนตัวถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเว็บไซต์ดังนี้ 

  1. smartmathpro.com 
  2. online.smartmathpro.com
  3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต

ฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง บริษัทฯ จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขาย การค้า หรือการใช้ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต และบริษัทฯ ยืนยันว่าจะไม่นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการไปให้แก่องค์กรต่าง ๆ ทั้งนี้ การให้ข้อมูลและเข้าเว็บไซต์นี้ ถือว่าผู้ใช้บริการยอมรับและยินยอมที่จะปฏิบัติตามนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ 

ประเภทของข้อมูล

ก่อนเข้าใช้บริการเว็บไซต์ดังนี้ 

  1. smartmathpro.com 
  2. online.smartmathpro.com
  3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต

ผู้ใช้บริการต้องแจ้งชื่อ และข้อมูลการติดต่อให้กับบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ซึ่งบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัทในเครือซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทในเครือที่ได้รับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ต้องปฏิบัติตามนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัว โดยจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เว้นแต่ได้รับการร้องขอโดยชอบตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ใช้ข้อมูลของผู้ใช้บริการ เพื่อแก้ไข ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการตลาด วิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประเมินการบริการ ในบางครั้งบริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเพื่อช่วยเหลือ และแก้ไขข้อบกพร่องของการให้บริการ

ที่อยู่อีเมล

บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยที่อยู่อีเมลของผู้ใช้บริการ ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งบริษัทฯ จะใช้ที่อยู่อีเมลเพื่อติดต่อกับผู้ใช้บริการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งเกี่ยวกับสถานะเป็นสมาชิก หรือเพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์หรือการบริการเท่านั้น

โปรไฟล์ของผู้ใช้บริการ

ตลอดเวลาที่ผู้ใช้บริการเป็นสมาชิก บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บชื่อ และที่อยู่อีเมลโดยไม่เปิดเผยแก่สมาชิกหรือบุคคลอื่นใด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจนำข้อมูลอื่น ๆ ที่แสดงในประวัติของผู้ใช้บริการไปแสดงในเว็บไซต์ดังนี้ 

  1. smartmathpro.com
  2. online.smartmathpro.com
  3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต

เพื่อให้ผู้บริการท่านอื่นได้เห็น ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่บุคคลอื่นสามารถเข้าถึงได้จากการใช้เว็บไซต์ บุคคลดังกล่าวอาจทำการโหลด พิมพ์ ข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ บริษัทฯ จะไม่ถือเป็นรับผิดชอบของบริษัทฯ และไม่ถือว่าบริษัทฯ ได้เปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการ

การรับอีเมลในเชิงพาณิชย์

อีเมลในเชิงพาณิชย์จากเว็บไซต์ดังนี้ 

  1. smartmathpro.com 
  2. online.smartmathpro.com
  3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต

มีการระบุตัวเลือกให้ผู้ใช้บริการ “เลือก” และ “ยกเลิก” ในการรับข้อมูลเชิงพาณิชย์ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกที่จะไม่รับข้อมูลในเชิงพาณิชย์ใด ๆ จากทางบริษัทฯ ได้ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเลือกรับอีเมลทางเชิงพาณิชย์ ผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกการรับอีเมลทางเชิงพาณิชย์ได้โดยส่งข้อความแจ้งความประสงค์ไม่ต้องการรับอีเมลมายังอีเมล [email protected] อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจส่งอีเมลเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริการไปยังผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถแจ้งความประสงค์ไม่ต้องการรับอีเมลได้เช่นกัน

การใช้บริการและการเป็นสมาชิกผ่านเว็บไซต์

บุคคลที่ต้องการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ดังนี้ 

  1. smartmathpro.com 
  2. online.smartmathpro.com
  3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต

ต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป และทางบริษัทฯ ไม่มีนโยบายทางการค้าและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง และการเข้าใช้เว็บไซต์ทั้งหมดดังกล่าวข้างต้น ถือว่าผู้ใช้บริการ ยอมรับและจะปฏิบัติตามข้อตกลงการเป็นสมาชิก

การเรียกกลับคำขอลบข้อมูล

ตามกฎของ Facebook แอปพลิเคชันที่เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการ ต้องมีวิธีให้ผู้ใช้บริการสามารถส่งคำขอให้ลบข้อมูลของตนได้ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการได้ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • ไปที่โปรไฟล์ Facebook ของตนเอง
  • แล้วคลิกปุ่มส่งคำขอในหน้าการตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว
  • เลือกไปที่ > การตั้งค่า > แอพและเว็บไซต์
  • เลือกแอปที่เข้าสู่ระบบด้วย Facebook (Logged in with Facebook)
  • เลือกไอคอนเช็คถูกด้านหน้า เพื่อเลือกแอปที่ต้องการลบออก แล้วเลือก ลบออก (Remove)
นโยบายคุกกี้

นโยบายคุกกี้ฉบับนี้ได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ดังนี้ 1. smartmathpro.com 2. online.smartmathpro.com รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต ดังนั้น ผู้ใช้บริการทุกท่าน โปรดศึกษานโยบายคุกกี้ฉบับนี้เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าใจแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผยคุกกี้ รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของบริษัทฯ 

คุกกี้คืออะไร ?

คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ฝังอยู่ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้บริการเมื่อผู้ใช้บริการเยี่ยมชมเว็บไซต์ หลังจากนั้นคุกกี้จะถูกส่งกลับไปยังเว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งของการเข้าเยี่ยมชมในครั้งถัดไปหรือส่งไปยังเว็บไซต์อื่นที่จดจำคุกกี้นั้นได้ คุกกี้เหล่านี้ถูกใช้เพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้หรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้ข้อมูลแก่เจ้าของเว็บไซต์

คุกกี้แบบชั่วคราว (Session Cookies) คือ คุกกี้ที่มีระยะเวลาชั่วคราวจะถูกใช้ในระหว่างที่ผู้ใช้บริการเยี่ยมชมเว็บไซต์และจะสิ้นสุดลงเมื่อผู้ใช้บริการปิดบราวเซอร์

คุกกี้แบบถาวร (Persistent Cookies) คือ คุกกี้ที่มีระยะเวลาอยู่ตลอดจนกว่าหมดอายุหรือถูกลบ ใช้จดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการภายในเว็บไซต์ และจะยังคงอยู่ในคอมพิวเตอร์หรือบนมือถือของผู้ใช้บริการแม้ว่าผู้ใช้บริการจะปิดเว็บไซต์นั้นแล้ว คุกกี้ดังกล่าวนี้จะช่วยเรื่องความสอดคล้องของข้อมูลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในขณะที่ผู้ใช้บริการเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือบริการ

คุกกี้ของบุคคลที่หนึ่ง คือ คุกกี้ที่ถูกกำหนดโดยเว็บไซต์ที่ผู้ใช้บริการกำลังเยี่ยมชม คุกกี้ของบุคคลที่สาม คือ คุกกี้ถูกกำหนดโดยเว็บไซต์ของบุคคลที่สามแยกต่างหากจากไซต์ที่ผู้ใช้บริการกำลังเยี่ยมชม เช่น ผู้ให้บริการข้อมูล โฆษณา หรือการวิเคราะห์บนเว็บไซต์

เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน คือ เทคโนโลยีที่จัดเก็บข้อมูลในบราวเซอร์หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้บริการเพื่อแบ่งปันข้อมูลหรือจัดเก็บข้อมูล เช่น แฟลชคุกกี้ HTML 5 และวิธีการอื่น ๆ ของซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันบนเว็บไซต์

บริษัทฯ ใช้คุกกี้อย่างไร ?

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน โดยบริษัทฯ จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:

  • เพื่อให้การเข้าบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
  • เพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งานและการตั้งค่าของผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ 
  • เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ 
  • เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานและการเข้าถึงบริการของบริษัทฯ 
  • เพื่อเก็บรวบรวมความสนใจ และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้บริการมากขึ้น
ประเภทคุกกี้ที่บริษัทฯ ใช้

ประเภทคุกกี้ที่บริษัทฯ ใช้บนเว็บไซต์ มีดังต่อไปนี้

1. คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies)

      คุกกี้เหล่านี้มีความสำคัญต่อการให้บริการบนเว็บไซต์แก่ผู้ใช้บริการและเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ผู้ใช้บริการลักษณะบางอย่างได้ คุกกี้เหล่านี้ช่วยในการยืนยันตัวบุคคลของผู้ใช้งานและช่วยป้องกันการปลอมแปลงบัญชีผู้ใช้งาน หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ บริษัทฯ ใช้คุกกี้ดังกล่าวนี้เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ

      2. คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functional Cookies)

        คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกเมื่อผู้ใช้บริการใช้งานเว็บไซต์ เช่น การจดจำรายละเอียดการเข้าสู่ระบบหรือการตั้งค่าภาษาของผู้ใช้บริการ วัตถุประสงค์ของคุกกี้เหล่านี้มีเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นและเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ใช้บริการต้องใส่ข้อมูลของผู้ใช้บริการใหม่ทุกครั้งเมื่อผู้ใช้บริการใช้งานเว็บไซต์ คุกกี้ดังกล่าวนี้เป็นคุกกี้แบบถาวรเนื่องจากยังคงอยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการเพื่อให้บริษัทฯ ใช้ในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ครั้งต่อไปของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการสามารถลบคุกกี้เหล่านี้ผ่านบราวเซอร์ของผู้ใช้บริการได้

        3. คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ (Analytical/Performance Cookies)

          คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ จดจำและนับจำนวนผู้ใช้งานบนไซต์ของบริษัทฯ รวมถึงทำให้บริษัทฯ เข้าใจถึงวิธีการที่ผู้ใช้งานใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงวิธีการทำงานของเว็บไซต์บริษัทฯ เช่น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

          4. คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Advertising Cookies)

            คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการ คุกกี้เหล่านี้จะจำกัดจำนวนครั้งที่ผู้ใช้บริการเห็นโฆษณาและช่วยให้บริษัทฯ ประเมินประสิทธิภาพด้านการตลาด นอกจากนี้บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลที่ได้รับจากคุกกี้เหล่านี้เพื่อเสนอโฆษณาที่ผู้ใช้บริการอาจสนใจโดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้บริการที่ผ่านมา คุกกี้ดังกล่าวนี้เป็นคุกกี้แบบถาวร บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลนี้กับบุคคลที่สามรวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ 

            ทางเลือกเกี่ยวกับคุกกี้

            ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ประสงค์ให้มีการใช้งานคุกกี้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการตั้งค่าบนบราวเซอร์ของผู้ใช้บริการเพื่อเลือกการใช้งานที่เหมาะสมกับผู้ใช้บริการ หากผู้ใช้บริการปิดการใช้งานหรือลบคุกกี้บางอย่างในการตั้งค่าบราวเซอร์ของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ การใช้งานบนเว็บไซต์หรือผู้ใช้บริการลักษณะบางอย่างอาจทำงานได้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์

            หากผู้ใช้บริการต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้และการตั้งค่าคุกกี้ดังกล่าว ผู้ใช้บริการสามารถเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ทางการบราวเซอร์ของผู้ใช้บริการได้ ผู้ใช้บริการสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการปฏิเสธหรือการลบคุกกี้ ตลอดจนข้อมูลเพิ่มเติมทั่วไปเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ www.allaboutcookies.org 

            การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุกกี้

            บริษัทฯ อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุกกี้ฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยผู้ใช้บริการสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2565

            การยินยอมใช้คุกกี้

            บริษัทฯ ได้ใช้เทคโนโลยีบนเบราว์เซอร์ที่เรียกว่า “คุกกี้” เพื่อจัดเก็บการใช้งานของผู้ใช้บริการ ผู้สนับสนุนเว็บของบริษัทฯ อาจมีการขอความยินยอมในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวบนอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ จุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานบนเว็บไซต์ ซึ่งผู้ใช้บริการต้องยินยอมในใช้งานคุกกี้บนเว็บเบราว์เซอร์เพื่อใช้เว็บไซต์ดังนี้ 

            1. smartmathpro.com 
            2. online.smartmathpro.com
            3. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์เครือข่าย และเว็บไซต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ในอนาคต
            ช่องทางการติดต่อ

            บริษัท สมาร์ทแมทโปร จำกัด (สำนักงานใหญ่)
            เลขที่ 926 อาคารโครงการ Block28 ห้องเลขที่ C305-C312, C311/1
            ซอย จุฬา 7 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

            และ สถาบันสมาร์ทแมทโปรสาขา MBK Center ชั้น 6
            โซน Education (Zone C) ถนนพญาไท
            แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

            อีเมล [email protected]

            หมายเลขโทรศัพท์ 061-8352112